มนุษย์จริงๆแล้วมาจากไหนและอะไรเป็นเหตุให้เกิดภัยพิบัติ

มนุษย์จริงๆ แล้วมาจากไหนและอะไรเป็นเหตุให้เกิดภัยพิบัติ
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)

    ที่ว่าจะมีไฟบรรลัยกัลป์มา เพราะว่าคนมีจิตบาปมาก ศีล ๕ ทำไม่ค่อยจะครบ เช่น ปาณาติบาต เป็นต้น อายุมันจะน้อยลงทุกที จนกระทั่งอายุถึง ๑๐ ปีเป็นอายุขัย ตอนนี้เกิด “มิคสัญญี” ไม่มีการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน จะรบราฆ่าฟันกันมาก

 

มนุษย์จริงๆ แล้วมาจากไหนและอะไรเป็นเหตุให้เกิดภัยพิบัติ
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)

ที่ว่าจะมีไฟบรรลัยกัลป์มา เพราะว่าคนมีจิตบาปมาก ศีล ๕ ทำไม่ค่อยจะครบ เช่น ปาณาติบาต เป็นต้น อายุมันจะน้อยลงทุกที จนกระทั่งอายุถึง ๑๐ ปีเป็นอายุขัย ตอนนี้เกิด “มิคสัญญี” ไม่มีการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน จะรบราฆ่าฟันกันมาก

พระอาทิตย์ท่านรำคาญเต็มที่ โผล่มาทีละ ๒ ดวง ๓ ดวง ๔ ดวง ตายหมด ทีนี้ถึง ๗ ดวง น้ำในมหาสมุทรก็แห้ง ต้นไม้แห้งกรอบจัด ผลที่สุดเป็นไฟลุก ไฟไม่ได้ไหม้มาจากไหน อาศัยน้ำแห้ง ต้นไม้แห้งกรอบเต็มที่ ความร้อนหนัก ก็เกิดไฟลุกขึ้น ก็ล้างกันเสียทีหนึ่ง

เมื่ออารมณ์สงสัยเกิดขึ้น ฉันก็อดที่จะอยากรู้ตามความเป็นจริงไม่ได้ ในที่สุดคืนวันหนึ่ง ฉันนั่งคุมกรรมฐานอยู่ ความสงสัยเรื่องรู้เลยธงเกิดขึ้นมาขวางจิต จึงถามท่านผู้รู้ที่เป็นสัพพัญญวิสัย ท่านทรงพยากรณ์ให้ทราบดังนี้

หลังจากกึ่งพุทธกาลไปแล้ว ๔,๐๐๐ ปี จะมีไฟล้างโลก ล้างแต่โลกมนุษย์เท่านั้น ไม่ลุกลามไปถึงเทวดา ท่านบอกว่ามันเริ่มความเร่าร้อนตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปีแล้ว จากนั้นไปพวกอธรรมเกิดมาก มีอำนาจวาสนามาก ทำให้ความสงบสุขไม่มี เพราะพวกอธรรม เป็นพวกเห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม

โลกจะร้างไม่มีต้นหญ้ากอไม้ แม้แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มี ไปครบ ๑,๐๐๐ ปี หลังจากนั้นแล้วจะมีฝนใหญ่ตกลงในมนุษยโลก แม่น้ำและมหาสมุทรจะเต็มไปด้วยน้ำ พื้นโลกจะชุ่มชื่น ต้นหญ้าต้นไม้ จะเริ่มงอกงามขึ้นเป็นลำดับ จนโลกทั้งโลกกลายเป็นป่าไม้

หลังจากโลกที่เขียวชอุ่มไปด้วยต้นหญ้าใบไม้นั้น ทิ้งระยะนาน ๑ หมื่นปี สัตว์โลกเริ่มเกิด สัตว์และคนที่มาเกิดยุคต้นนั้น ไม่ได้อาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด มาเกิดแบบโอปปาติกะ คือ มาเกิดด้วยอำนาจกรรม คือเป็นตัวตนขึ้น

จะยังไม่มีพระอาทิตย์พระจันทร์ส่องแสง มีแสงสว่างเกิดจากอำนาจบุญของแต่ละบุคคล คือมีแสงสว่างออกจากตัวเองเป็นสำคัญ

เรื่องอาหารนั้น ในระยะแรกยังไม่ต้องการอาหาร มีความอิ่มด้วยธรรมปีติ เพราะแต่ละคนที่มาเกิด ล้วนแล้วแต่มาจากเทวดาหรือพรหมทั้งนั้น ไม่มีสัตว์นรกหรือเปรตเจือปน โลกจึงเต็มไปด้วยความสุข หาความทุกข์ไม่ได้ นอกจากกฎธรรมดา คือความเสื่อมของสังขาร

เรื่องการทะเลาะยื้อแย่งไม่มี คนทุกคนเป็นคนสวยหมด มีผิวขาวเหลือง เนื้อละเอียดทั้งหญิงและชาย มีแต่คนรวย ไม่มีใคนจน มีแต่คนใจบุญ ไม่มีใครใจบาป เมื่อโลกมีมนุษย์และสัตว์บริบูรณ์ มีดวงจันทร์ มีดวงอาทิตย์ ระยะเวลานับแต่มีสัตว์โลก เกิดในโลก เวลาล่วงมาได้ล้านปี

คนสมัยนั้นมีอายุครองตนเองได้ ๔ หมื่นปี เป็นอายุขัย ท่านว่าตอนนั้น พระศรีอาริย์จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เขตที่ท่านลงมาตรัส สมัยปัจจุบันเรียกว่า เขตเมืองพม่า

พูดถึงไฟบรรลัยกัลป์แล้วน่ากลัวจริงๆ นะ แต่ถ้าคนชั่วมีมาก ก็ควรล้างกันเสียที

 


บทสรุป

เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าสรรพสิ่งเกิดขึ้นจากจิตใจของคน ถ้ามีคนดีมีศีลธรรมมาก โลกก็ร่มเย็น ถ้ามีคนผิดศีลผิดธรรมมาก โลกก็จะเร่าร้อน

เหมือนปัจจุบัน อากาศจะร้อนมาก และดูคนสมัยนี้ ผิดศีลผิดธรรมกันมาก เรื่องกามราคะ เรื่องสุราเมรัย คนบางคนไม่เคยมีศีลไม่เคยรักษาศีลเลย สร้างแต่กรรมชั่ว

ป้านิภาเคยบอกตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้น ๒ ดวง ถึงเราจะมองเห็นดวงเดียว แต่ความร้อนเหมือนพระอาทิตย์ ๒ ดวงจริงๆ

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ปกิณกะธรรม และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

หนึ่งความเห็นตอบกลับที่ มนุษย์จริงๆแล้วมาจากไหนและอะไรเป็นเหตุให้เกิดภัยพิบัติ

  1. เสขะ บุคคล พูดว่า:

    ที่ว่าจะมีไฟบรรลัยกัลป์มา เพราะว่าคนมีจิตบาปมาก ศีล ๕ ทำไม่ค่อยจะครบ

ความเห็นถูกปิด