ศูนย์พุทธศรัทธา
- ประวัติศูนย์พุทธศรัทธา
- ดำริในการสร้างศูนย์พุทธศรัทธาของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
- เยี่ยมชมศูนย์ฯ
- ครบรอบ ๒๐ ปี ผลการดำเนินงานและกิจกรรมของศูนย์ฯ
- ครบรอบ ๒๕ ปี ผลการดำเนินงานและกิจกรรมของศูนย์ฯ
- ครบรอบ ๓๗ ปี /๒๕๖๕
- สมเด็จองค์ปฐม ปางพุทธลีลาประทานพร
- ตำนานเมืองขีดขิน-เมืองโบราณใกล้ศูนย์พุทธศรัทธา
- พระบูชา/วัตถุมงคลของศูนย์พุทธศรัทธา
- การเดินทางไปศูนย์ฯ
มโนมยิทธิ
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
กิจกรรมบำเพ็ญกุศล
ห้องธรรมะ/เรื่องเล่า
ลิ้งก์เว็บไซต์ที่เกี่ยวเนื่อง
ส.ค.ส.๒๕๕๘ จากศูนย์พุทธศรัทธา
โพสท์ใน กิจกรรม ๒๕๕๘
ติดป้ายกำกับ 2558, ปีใหม่, พรปีใหม่, ส.ค.ส.
ปิดความเห็น บน ส.ค.ส.๒๕๕๘ จากศูนย์พุทธศรัทธา
๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ครบรอบ ๒๙ ปีศูนย์พุทธศรัทธา
ศูนย์พุทธศรัทธา ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๒๘ ซึ่งเป็นวันมหามงคลของปวงชนชาวไทย คือวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระเจ้าอยู่หัว ในระยะแรกได้สร้าง กุฏิกองทุน ขึ้นมา ๑ หลังใช้เป็นที่ปฏิบัติพระกรรมฐาน ต่อมาในปี ๒๕๒๙ ได้สร้าง ศาลาพระภาวนาวิสุทธิคุณ เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลและปฏิบัติพระกรรมฐาน
ในปี ๒๕๓๒ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ “พระสุธรรมยานเถระ” ได้เมตตามาโปรดศิษยานุศิษย์และพุทธบริษัท ณ ศูนย์พุทธศรัทธา และได้เมตตารับ ศูนย์พุทธศรัทธา เป็นสำนักปฏิบัติพระกรรมฐาน ขึ้นตรงต่อวัดท่าซุง
หลวงพ่อได้มีบัญชาให้สร้าง ศาลาพระสุธรรมยานเถระ ชั้นล่างใช้เป็น ศาลาบำเพ็ญกุศล ชั้นบนเป็น มณฑปจตุรมุข และสร้าง กุฏิอำนวยการ เพื่อใช้เป็นกุฏิรับรองพระที่ทางศูนย์พุทธศรัทธานิมนต์มาเจริญศรัทธา และหลวงพ่อได้เมตตามาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลาพระสุธรรมยานเถระ เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๓๒
ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๓ ได้มีพิธียกช่อฟ้าเอกมณฑปจตุรมุข พิธีเททองหล่อ พระนาคปรก หล่อ รูปเหมือนหลวงปู่ปาน-หลวงพ่อฤาษี โดยพระครูปลัดอนันต์ พัทธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง เมตตามาเป็นประธานในพิธี และต่อมาได้สร้าง หอพระ ขึ้น บริเวณทิศตะวันตกของมณฑปจตุรมุข เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน พระนาคปรก
ภายใน มณฑปจตุรมุข เป็นที่ประดิษฐาน สมเด็จองค์ปฐม ทรงเครื่องพระเจ้าจักรพรรดิ ขนาดหน้าตัก ๓ ศอก ปิดทองประดับเพชร พระประธานประจำศูนย์ฯ ซึ่งได้มีพิธีเททองหล่อในวันมาฆบูชาปี ๒๕๔๗ และประดิษฐาน สมเด็จองค์ปัจจุบัน รูปหล่อหลวงปู่ปาน รูปหล่อหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ และ บุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
และในวันมาฆบูชาปี ๒๕๕๖ ศูนย์พุทธศรัทธาได้จัดให้มีพิธีเททองหล่อ สมเด็จองค์ปฐม ปางพุทธลีลาประทานพร สูง ๘ ศอก และสร้าง ซุ้มสมเด็จองค์ปฐม ขึ้น บริเวณทิศตะวันออกของมณฑปจตุรมุข เพื่อเป็นที่ประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม ปางพุทธลีลาประทานพร สูง ๘ ศอก ปิดทองประดับเพชร และได้มีพิธียกฉัตรซุ้ม เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ภายในบริเวณศูนย์พุทธศรัทธา ประดิษฐาน สมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก ๘ ศอก ซึ่งได้มีการบูรณะในปี ๒๕๔๙ จากเดิมองค์สีทองเป็นองค์สีขาว และในปี ๒๕๕๔ ได้มีการซ่อมแซมและทาสีใหม่ เนื่องจากผิวบางส่วนขององค์ท่านชำรุด
สำหรับกิจกรรมบำเพ็ญกุศลนั้น ศูนย์พุทธศรัทธาได้จัดให้มี งานบวชเนกขัมมะบารมี ขึ้นปีละ ๔ ครั้ง เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาใน วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และถวายพระราชกุศลแด่พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เนื่องใน วันเฉลิมฯ ๕ ธันวาคมและ ๑๒ สิงหาคม โดยเริ่มจัดครั้งแรกในปี ๒๕๓๐ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี ๒๕๓๕ ได้สร้าง ตึกกรรมฐาน ขึ้น ใช้สำหรับเป็นที่พักของผู้ที่มาปฏิบัติพระกรรมฐาน ชั้นบนเป็นห้องพักรับรองคนได้ประมาณ ๖๐ คน ชั้นล่างทำเป็นโรงอาหาร และได้สร้าง กุฏิกรรมฐาน เป็นกุฏิถาวร ๕ หลัง และกุฏิชั่วคราว ๕ หลัง
เนื่องจากมีผู้มาร่วมงานบวชเนกขัมมะบารมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในปี ๒๕๕๓ จึงได้สร้าง ห้องน้ำ เพิ่มขึ้นอีก ๑๕ ห้อง มีการสร้าง ตึกโรงอาหารใหม่ เพิ่มในปี ๒๕๕๔ และในปี ๒๕๕๖ ได้จัดสร้าง อาคารที่พักผู้มาปฏิบัติธรรม ขนาด ๒๔ คูณ ๕ เมตร เป็นอาคาร ๒ ชั้น พร้อมห้องน้ำ ๑๐ ห้อง เพื่อรองรับผู้มาบวชฯ ที่มากขึ้น
ศูนย์พุทธศรัทธาได้ดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุ สร้างพระพุทธรูป และสิ่งก่อสร้างต่างๆ เรื่อยมา โดยในปลายปี ๒๕๕๒ ได้มีการจัดสร้าง ป้ายศูนย์พุทธศรัทธา ขึ้นใหม่ และได้ทำพิธีเจิมป้ายในวันมาฆบูชา ๒๕๕๓ โดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชสุเมธี เป็นองค์ประธานในพิธี และได้ดำเนินการจัดสร้าง ซุ้มประตูทางเข้าศูนย์ฯ เสร็จเรียบร้อยในช่วงกลางปี ๒๕๕๗
ในวันวิสาขบูชา ๒๕๕๒ ศูนย์พุทธศรัทธาได้จัดให้มีพิธีสร้าง พระทันใจปางปฐมเทศนา ขนาดหน้าตัก ๓ ศอก พร้อมพระปัญจวัคคีย์ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ของศูนย์พุทธศรัทธา และได้สร้าง ฉัตรปิดทองประดับเพชรและปลูกต้นโพธิ์ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา
และได้จัดสร้าง พระชำระหนี้สงฆ์ทันใจ หน้าตัก ๔ ศอก สร้างเสร็จสมบูรณ์ภายในหนึ่งวัน ในวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ต่อมาได้ทำการปิดทองคำแท้ เพื่อทุกคนที่ร่วมสร้างจะได้มีอานิสงส์ในการชำระหนี้สงฆ์สมบูรณ์ แล้วเสร็จปลายปี ๒๕๕๔
ในช่วงปลายปี ๒๕๕๗ นี้ ศูนย์พุทธศรัทธาได้เริ่ม บูรณะซ่อมแซมอาคารพระชำระหนี้สงฆ์ ซึ่งต้องใช้งบในการบูรณะประมาณ ๕ แสนบาท ท่านที่มีจิตศรัทธาจะร่วมทำบุญ ยังร่วมบุญได้เรื่อยๆ จนกว่าจะบูรณะเสร็จ ได้อานิสงส์ทั้งสร้างวิหารทานและชำระหนี้สงฆ์ด้วยครับ
โพสท์ใน กิจกรรม ๒๕๕๗, มุมมองศูนย์ฯ
ติดป้ายกำกับ 5 ธันวา, ศูนย์พุทธศรัทธา
ปิดความเห็น บน ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ครบรอบ ๒๙ ปีศูนย์พุทธศรัทธา
สมเด็จองค์ปฐม ปางพุทธลีลาประทานพร
โพสท์ใน กิจกรรม ๒๕๕๖, งานบุญศูนย์ฯ, มุมมองศูนย์ฯ, สมเด็จองค์ปฐม ปางพุทธลีลา
ติดป้ายกำกับ 2556, พุทธลีลา, องค์ปฐม
2 ความเห็น
กิจกรรมบำเพ็ญกุศลศูนย์พุทธศรัทธา ปี ๒๕๕๗
มีกิจกรรมบำเพ็ญกุศลตลอดปี
ปิดทองประดับเพชร เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งจะต้องใช้งบในการบูรณะประมาณ ๕ แสนบาท
และทำบุญอุทิศกุศลให้บรรพบุรุษและผู้มีพระคุณต่อศูนย์ฯ ที่ล่วงลับไปแล้ว
วันอังคารที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๗ เริ่มพิธี ๐๙.๐๐ น.
๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ นำกฐินไปร่วมทอดมหากฐิน ณ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
และงานทำบุญครบรอบ ๒๙ ปี การก่อตั้งศูนย์พุทธศรัทธา
โพสท์ใน กิจกรรม ๒๕๕๗, กิจกรรมประจำปี
ติดป้ายกำกับ 2557, กิจกรรม
ปิดความเห็น บน กิจกรรมบำเพ็ญกุศลศูนย์พุทธศรัทธา ปี ๒๕๕๗
ปัญหาเรื่องศาลพระภูมิ
เรื่องนี้นับว่ามีความสำคัญสำหรับคนไทย ทีมีความเชื่อถือมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย มักจะมีเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตไทๆ อยู่เสมอ ฉะนั้นท่านที่กำลังมีปัญหาเรื่องนี้ คงจะเข้าใจในพิธีกรรมต่างๆ ตามแบบฉบับในการแนะนำของหลวงพ่อ ขอเริ่มปัญหาแรกกันเลย…
ความเป็นมาของการตั้งศาลพระภูมิ
ผู้ถาม :- “หลวงพ่อครับ เทวดาที่สิงสถิตย์อยู่ที่ศาลพระภูมิ เป็นเทวดาชั้นไหนครับ?”
หลวงพ่อ :- “ไม่มี…ที่ศาลนี่ไม่มีจริงๆ นะ ศาลเป็นที่สักการะเฉยๆ ใช่ไหม…แต่วิมานเขามีอยู่ และการยกศาลเป็นการแสดงยอมรับนับถือ จะให้เข้าไปนั่งในศาลพระภูมิต้องทำตัวเล็กซินะ (หัวเราะ) อันนี้เป็นการแสดงการยอมรับนับถือ ยอมรับนับถือซึ่งกันและกันจึงตั้งศาลขึ้น
เรื่องนี้เคยถามภูมิเทวดาท่าน เมื่อก่อนนี้เคยยกศาลบ่อยๆ สงสัยก็เชิญท่านมา…ท่านก็มา จึงถามว่า ความเป็นมาของการตั้งศาลพระภูมิเป็นมาอย่างไร…ท่านบอกว่า จริงๆ มันไม่มีแบบ เดิมทีเดียว ชาวบ้านยังไม่มีพุทธศาสนา ใช่ไหม…ก็นับถือเจ้าที่เจ้าทาง เทวดาประจำถิ่นบ้าง…อะไรบ้าง…การแสดงความเคารพก็ไม่มีอะไรมาก เอาไม้กระบอกปักเข้า จูดธูปบอก
ต่อมาก็คิดว่าเราอาศัยเทวดามาก ก็ควรจะมีอะไรถวายเทวดาบ้าง ก็ทำเป็นศาลเพียงตาขึ้นมา เอาของวางข้างล่าง ก็คิดว่าเทวดานั่งข้างบน
ต่อมาก็เห็นใจเทวดานั่งตากแดดนั่งตากฝนก็ทำร่มให้ แล้วต่อมาก็ทำเป็นบ้าน แล้วต่อมาก็ทำเป็นตึก เวลานี้เป็นปราสาทนะ สวยงามมาก แสดงว่าพระภูมินี่ร่ำรวยขึ้น คือบ้านสวย อันนี้เป็น ภูมิเทวดา แต่ว่าถ้าเป็นศาลสี่เสาหรือหกเสา เป็น อากาศเทวดา นะ
แต่ถ้าถามว่าในสถานที่ไหน…ควรจะใช้สี่เสาหรือหกเสา ก็ต้องดูก่อนว่า ที่นั่นมีอากาศเทวดารักษาหรือเปล่า…เพราะอากาศเทวดาก็เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช องค์หนึ่งก็คุมพระภูมิหลายสิบองค์ เหมือนกับเจ้าเมืองนะ เจ้าเมืองก็มีคนเดียวใช่ไหม…นอกนั้นก็มีกำนันผู้ใหญ่บ้านเยอะ นี่ตามที่ถามท่านมานะ ที่พูดนี่ไม่มีตำรานะ เป็นเพียงถามภูมิเทวดาท่าน ตำราถามนี้ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องเขียน”
การตั้งศาลพระภูมิ
ผู้ถาม :- “เรื่องตั้งศาลพระภูมิขอให้หลวงพ่อแนะนำหน่อยค่ะ”
หลวงพ่อ :- “เวลาจะตั้งศาลพระภูมินะ อันดับแรกขุดหลุมก่อน แล้วเอาเสาแหย่ลงไป”
ผู้ถาม :- (หัวเราะ)
หลวงพ่อ :- “พิธีกรรมฉันไม่มีกับเขาหรอก เพราะเรื่องนี้ฉันไม่ได้ศึกษากับใครเขา ถ้าเมื่อก่อนฉันตั้งให้ ฉันใช้เชิญท้าวมหาราช เพราะท้าวมหาราชท่านเป็นนายพระภูมิ เมื่อเชิญมาแล้ว ท่านก็สั่งให้ลูกศิษย์ท่านรักษา ดีกว่าเราขอร้อง ฉันทำแบบนี้ ไม่เกี่ยวกับคำถามนะ
มีบ้านอยู่บ้านหนึ่งที่ดำเนินสะดวก มีแม่อยู่คน มีลูกสาวอยู่คน สองคนเท่านั้น เป็นผู้หญิง พวกโจรคิดว่าบ้านนี้เป็นผู้หญิงมีสตางค์ หวานคอแน่ ก็ตั้งใจปล้น
ก่อนหน้านั้นบังเอิญอาตมาไปธุระ เห็นบอกว่ามีข่าวไม่ดี มีคนมาบอก ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยให้เขาใช้เครื่องบวงสรวงเชิญท้าวมหาราช ถ้าหากว่าท่านช่วยก็พ้น ถ้าท่านไม่ช่วยก็แล้วไป หมูเสียก็กินเอง พอทำเข้าไปแล้วปรากฏว่า ๑ ปีผ่านไป ขโมยไม่ได้เข้าบ้าน พวกโจรพวกนั้นแหละเขาไปคุยในร้านเหล้าว่า
“อีรอดนี่…มันมีสองคนเท่านั้นกับลูกสาวเวลากลางวัน แต่เวลาจะเข้าไปทีไร มันเอาผู้ชายที่ไหนมา ๑๐ คนตัวใหญ่ๆ เต็มไปหมด” เข้าไม่ได้ พอเข้าใกล้เขตบ้าน พวกนั้นจะมาเล่นงาน ไอ้พวกนี้ก็ถอย
ทีนี้บ้านน้องสาวแกอีกคนหนึ่ง อยู่ฝั่งตรงข้าม เขาเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน เขาถามพี่สาวว่าทำยังไง…แกก็บอกไม่รู้ หลวงพ่อท่านมา ท่านให้บูชา ฉันก็บูชาตามท่านว่า รายนั้นก็เอาบ้างขอคำบูชาไป พอบูชาได้ ๒ วันนอนไม่ได้เลย พวกขว้างบ้านปังๆ ตลอดคืน เขาก็เข้าใจว่าคนอื่นมาขว้าง พวกผู้ชายเขาก็เอาปืนไปนอนในบ้านบ้าง นอนนอกบ้านบ้าง ถ้าใครมาขว้าง ถ้าไม่ยิงก็ไล่จับกันก่อน ถ้าสู้ก็ต้องยิงกันละนะ
ปรากฏว่าก็ยังมีคนขว้างอีก แต่ก็ไม่เห็นตัว ไปๆ มาๆ ก็เอาคำบูชามาคืนให้ยายรอดตามเดิม จึงได้เลิกขว้าง ไอ้ที่ขว้างปังๆ น่ะ เช้าขึ้นไปดู วัตถุเป็นหินเป็นกรวด เป็นไม้ไม่มีเลยนะ ไอ้ฝาสังกะสีหน้าบ้านหลังคารั่วแต่ไม่มีวัตถุ นี่เรื่องท้าวมหาราชต้องทำให้ถูกนะ ถ้าทำไม่ถูกมีเรื่องแน่”
ตั้งศาลบนดาดฟ้า
ผู้ถาม :- “แล้วการตั้งนี่ ถ้าคนที่จะตั้งบนดาดฟ้านี่ สมควรไหมครับ…?”
หลวงพ่อ :- “คนตั้งไม่แน่ แต่พระตั้งได้ เพราะฉันเคยไปตั้ง ใช่ไหมคุณ ได้ ไม่เป็นไรนะ ฉันเคยไปตั้ง เมื่อก่อนยังตั้งศาลอยู่ ก็ไปที่จังหวัดชัยนาท มันหาที่ไม่ได้ ที่ข้างๆ ก็ติดกับตึก ตึกเขาเป็นดาดฟ้านะ ไล่ไปไล่มาก็ถามเทวดา (ไปเชิญเทวดาชั้นจาตุฯ เป็นศาลสี่เสา) หาที่ไม่เหมาะ ก็ถามท่านเวสสุวัณว่า เอาตรงไหนดี…ท่านก็บอกว่า เอาบนหลังคาก็แล้วกัน ก็ให้เขาย้ายขึ้นหลังคา
เป็นอันว่าพอเชิญท่านเสร็จ เขาหุ้นกับพวกตึกแถวนะ แถวเดียวกันนี่ เข้าหุ้นกันได้ ขณะอัญเชิญท่านมา ท่านก็บอกว่า ที่นี่จะมีไฟนะ ไฟจะไหม้ บอกเจ้าของบ้านเขาด้วยนะ ประเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่พูด ถ้าเป็นปกติแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ ถามท่านอีกที วิธีช่วยได้เป็นยังไง…ต้องถามท่าน ท่านบอกให้เขาทำอีกครั้งหนึ่ง ศาลไม่ต้องทำใหม่ แต่ของเชิญทำอีกครั้ง วันหลังก็ได้ หมูใช้สีแดงทา ไก่ก็เหมือนกัน แล้วใช้กระดาษแดงใส่ถาดรองหมูไก่ เขาก็ทำตามนั้น
เมื่อเชิญท่านเสร็จ ท่านก็บอกว่า ไฟนี้ต้องไหม้นะ แล้วกัน! ถามว่าไหม้ที่ไหน…ท่านบอก ไหม้ที่โรงแรม ถามว่าไหม้มากไหม…ไหม้ผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ติดฝา แต่ต้องไหม้ ไงๆ ก็ต้องไหม้ จะลดเลยไม่ได้ ทีแรกจะต้องไหม้ทั้งหมดเลยนะ ไหม้หมดแถว เขาก็ทำตามนั้น ฉันเลยให้เขาระวังกัน เป็นจริงตามนั้น ไม่ถึง ๑๐ วัน ชั้นสองของโรงแรมมีไฟขึ้นมา เขาวิ่งไปดูกัน ไหม้ผ้าขี้ริ้วจริงๆ แบบขโมยเข้าบ้านแล้วต้องเอาหน่อยใช่ไหม…ไม่งั้นเสียศักดิ์ศรีขโมย”
ตั้งศาลพระภูมิเอง
ผู้ถาม :- “พวกลูกๆ จะตั้งกันบ้างนี่ ขอบารมีหลวงพ่อช่วยแนะนำบ้างครับ”
หลวงพ่อ :- “พวกนี้ช่วยเก็บบารมีไว้ซิ ทำไง…เอายังงี้วิธีง่ายๆ ใช้ เทปบวงสรวง ใช้ได้นึกเอาตามนั้นนะ
อันดับแรก จุดธูปเทียน อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าก่อน ทีหลังก็เปิดเทป แล้วน้อมใจไปตามเสียงนั้นนะ ในเทปนั้นเขาอัญเชิญท้าวมหาราชทั้ง ๔ มี ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ ท้าวเวสสุวัณ พร้อมด้วยอินทกะและบริวาร ขอมาช่วยคุ้มครอง ว่าเรื่อยเฉื่อยไปก็แล้วกัน แต่ว่าถ้าจะตั้งแบบนั้น ยังมี ปลาแป๊ะซะ ๑ ตัว เติมนะ เรื่องของพระภูมิพอจะใช้ได้นะ ตั้งไว้เยอะแล้ว”
ผู้ถาม :- “หลวงพ่อครับ หลังจากวันตั้งแล้วนี่นะครับ ปลาแป๊ะซะจะมีถวายอีกไหมครับ?”
หลวงพ่อ :- “ท่านไม่ว่าหรอก เอาอย่างนี้ดีกว่า เวลาตรุษสารทนะ ถวายให้ครบถ้วนดีกว่านะ เพื่อความสบายใจของเรา คือว่าท่านไม่ทวงเราแน่ แต่เพื่อความสบายใจของเราเอง เพราะเราทำครบแล้ว ใช่ไหม…เอายังงั้นดีกว่านะ”
ผู้ถาม :- “ของคาวและเหล้า ก็หมายถึงว่าสมควรตั้งอย่างเดียว อย่างหลังไม่ต้องตั้งใช่ไหมครับ”
หลวงพ่อ :- “ถมเถิดไป ฉันก็เคยใช้ เทวดาไม่เคยต่อว่า เหล้านะ ของคาวนะมีได้แต่เหล้าไม่ควรจะมี เทวดาเขาเลิกแล้ว ไอ้ที่ต้องใช้เหล้าน่ะ เทวโด่ไม่ใช่เทวดา จริงๆนะ ฉันไม่ใช้เลยนะ”
ผู้ถาม :- “ถ้าสมมติจะตั้ง ควรจะหันหน้าศาลไปทางทิศไหนครับ?”
หลวงพ่อ :- “หันหน้าใคร”
ผู้ถาม :- “โอ หลวงพ่อนี่ลึกซึ้งละเอียดเหลือเกินนะ”
หลวงพ่อ :- “อ้าว…เดี๋ยวตอบไป ไม่ใช่ๆ หน้าผมครับ หน้าศาลหรือหน้าคน?”
ผู้ถาม :- “หน้าศาลครับ”
หลวงพ่อ :- “หน้าศาลเขาไม่จำกัด เอาแค่เราเข้าบูชาสะดวก แต่ว่าทิศที่ตั้งศาลนี่จำกัด ที่ว่าพระภูมิก็ ไม่ควรตั้งทิศตะวันตก ถ้าตั้งทิศตะวันตกเอาจริงๆ หลวงพ่อปานท่านเคยบอกว่า ทิศนี้ฉิบหายแล้วตายโหง ฉันเคยไปพบที่จังหวัดอุทัยธานี กับจังหวัดชัยนาท เป็นความจริงตามนั้น เศรษฐีนะพังไป ๒ ราย และพังในเหตุที่ไม่ควรจะพัง ไม่น่าจะพัง
และอีกทิศหนึ่งก็ ทิศใต้ไม่ควรตั้งนะ ทิศใต้นี่ก็เป็นแต่เพียงท่านบอกว่า จะเก็บสตางค์ไว้ไม่อยู่ ทิศที่ควรตั้ง คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศเหนือ หรือทิศตะวันออก ๓ ทิศนี้นะ แต่ว่าถ้าบ้านมีดาดฟ้า ตั้งดาดฟ้าเลยดีกว่า สบายใจนะ”
ผู้ถาม :- “หมายถึงส่วนของดาดฟ้านี่นะครับ เราก็ตั้งช่วงที่อยู่ด้านทางทิศตะวันออก”
หลวงพ่อ :- “ใช่ๆ ให้ถูกทิศ”
ผู้ถาม :- “หันหน้าไปทางไหนก็ได้ ใช่ไหมครับ?”
หลวงพ่อ :- “หันหน้าไม่จำเป็น หันหน้าแค่เราบูชาได้สบายนะ แต่ว่านึกถึงตำรา แต่มันก็ไม่มีตำราเขียน หลวงพ่อปานท่านเคยสั่ง ก็เลยบอกคนเขาเขียนไว้ พอถึงปีจริง มีเรื่องตัวเองก็ต้องตาย เงินทองก็เสียหายมาก เสียอย่างมากเลยนะ ไม่ใช่อย่างน้อย”
โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
ติดป้ายกำกับ พระภูมิ, ศาลพระภูมิ, เจ้าที่
ปิดความเห็น บน ปัญหาเรื่องศาลพระภูมิ
เล่นการพนัน ไม่ได้คดโกง เป็นการหากินโดยสุจริตมั๊ย
หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม :- “หลวงพ่อครับ ที่หลวงพ่อบอกว่าให้ตัดความโลภ ให้หากินโดยสุจริต ไม่คดไม่โกงเขา แล้วอย่างไปเล่นการพนัน เราไม่ได้คดโกงเขา อย่างนี้จะได้ไหมครับ…?”
หลวงพ่อ :- “อันนี้ไม่ใช่โลภนะ ไอ้หนู การพนันเป็นอบายมุข ฉิบหายเลย”
ผู้ถาม :- “แล้วที่เขารวยกันเล่าฮะ…?”
หลวงพ่อ :- “เออ…นั่นแหละ ฉิบหายแน่ ฉิบหายเพราะอะไรรู้ไหม…ตายตกนรก”
ผู้ถาม :- “แล้วเจ้ามือตกไหมครับ…?”
หลวงพ่อ :- “เขายังไม่ตายก็ไม่ตก มันก็ด้วยกันนั่นแหละ การพนันจิตมันชั่ว จะมุ่งฟัดกันท่าเดียว ไม่มีใครคิดแบ่งกันเลย คอยจะเอาเขาท่าเดียว ไอ้เจ้ามือก็จะเล่นลูกค้า ลูกค้าก็จะเล่นเจ้ามือ มันล่อกันตรงนั้นแหละ ล่อแล้วไปคุยกันที่สำนักพระยายมอีกที ว่าใครจะมีบุญมากกว่ากัน ใครจะลงลึกมากกว่ากัน”
จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๓ หน้า ๖๐-๖๑ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
ติดป้ายกำกับ เล่นการพนัน
ปิดความเห็น บน เล่นการพนัน ไม่ได้คดโกง เป็นการหากินโดยสุจริตมั๊ย