
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
ผู้ถาม :- “หลวงพ่อครับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านต้องบำเพ็ญบารมีนานไหมครับ จึงจะตรัสรู้ได้…?”
หลวงพ่อ :- “พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ ๒ อสงไขยกับแสนกัป”
ผู้ถาม :- “ท่านตรัสรู้เองใช่ไหมครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ใช่ ลงคำว่า พุทธเจ้า ต้องตรัสรู้เอง คือไม่ต้องรับคำสอนจากคนอื่น”
ผู้ถาม :- “มีเฉพาะตอนที่มีพระพุทธเจ้าใช่ไหมครับ…?”
หลวงพ่อ :- “เจ๊ง…พระปัจเจกพุทธเจ้าจะมีขึ้น ก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า ไม่ใช่มีพระพุทธเจ้า อย่างศาสนานี้สิ้นไป ในช่วงว่างก่อนจะถึงพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
สมัยพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเวลานั้นก็ไม่มีสาวก ก็มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้งหมด เพราะพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้บรรลุเพียงองค์เดียวอย่างพระพุทธเจ้า ก็มีได้เป็นหมื่นเป็นแสน แต่ว่าพระพุทธเจ้าจะต้องมีองค์เดียว มีซ้อนไม่ได้”
ผู้ถาม :- “แล้วทำไมพระปัจเจกพุทธเจ้าเมื่อท่านตรัสรู้แล้ว จึงไม่สอนเหมือนกับพระพุทธเจ้าครับ…?”
หลวงพ่อ :- “เกิดทันรึ…รู้เหรอว่าท่านไม่สอน เคยพบหรือเปล่า…?”
ผู้ถาม :- ?…?…?
หลวงพ่อ :- “ท่านสอน จะว่าไม่สอนเลยนั้นไม่ใช่ แต่ว่าไม่สอนถึงอริยสัจ ถ้าไปศึกษากับท่าน ท่านก็สอนแค่อภิญญาโลกีย์ ส่วนที่ตัดเข้าถึงมรรคผลนั้นเป็นเรื่องของบุคคลนั้นเอง ปัจเจก เขาแปลว่า รู้เฉพาะตน ความจริง คำว่า เฉพาะ ก็มีเฉพาะส่วนที่เป็นอริยสัจเท่านั้นเองนะ”