หลวงพ่อพระราชพรหมยาน สนทนากับ ในหลวง

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน สนทนากับในหลวง

      หลวงพ่อสรุปว่า นี่เป็นอันว่าน้ำพระทัยของพระองค์ ไม่ทรงสะเทือนในคำนินทาและสรรเสริญ ก็ทรงอุเบกขาเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นถ้าหากว่าวันนี้ อาตมาจะถวายพระพร ให้ทรงอยู่ในด้านของพรหมวิหาร ๔ ก็เห็นว่าจะไม่มีผล เพราะว่าความดี ๔ ประการนี้ พระองค์ทรงมีแล้วเรียบร้อยทุกประการ

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน ปกิณกะธรรม | ติดป้ายกำกับ , | 7 ความเห็น

การระลึกตามบทพระพุทธคุณ ๙ อย่าง

การระลึกตามบทพระพุทธคุณ ๙ อย่าง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

      อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทู อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควา พระพุทธคุณทั้ง ๙ ประการนี้ บรรดาพุทธศาสนิกชนระลึกนึกถึง จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน คือตั้งอารมณ์ข่มนิวรณ์ปรารภถึงความดีของพระพุทธเจ้า

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน ธรรมโอวาท | ติดป้ายกำกับ | 2 ความเห็น

หลวงพ่อฤาษี ถูกลองดี ต่อหน้าหลวงพ่อปาน

หลวงพ่อฤาษี ถูกลองดี ต่อหน้าหลวงพ่อปาน

      หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านไปเที่ยวสวรรค์-นรกเป็นปกติ ท่านชอบปฏิปทาของพระโมคคัลลาน์และพระมาลัย พบเทวดาองค์ไหน ท่านก็จะสอบถามประวัติความเป็นมาของเขา เลยเป็นเหตุให้ท่านถูกลองดีต่อหน้าหลวงพ่อปาน

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน ปกิณกะธรรม | ติดป้ายกำกับ , , | ปิดความเห็น บน หลวงพ่อฤาษี ถูกลองดี ต่อหน้าหลวงพ่อปาน

ตาแคล้ว ทายกของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ตายแล้วฟื้น

ตาแคล้ว ทายกของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
ตายแล้วฟื้น

      เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) ท่านบวชใหม่ ๆ ตาแคล้วตายไป ๘ ชั่วโมง ฟื้นขึ้นมา ก็มาเล่าเรื่องชีวิตหลังความตายให้หลวงพ่อฟัง มีหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยทำบุญด้วยน้ำ

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน ปกิณกะธรรม | ติดป้ายกำกับ , | 3 ความเห็น

หลวงพ่อฤาษี ไขปริศนาเรื่องแดนนรกภูมิ

หลวงพ่อฤาษี ไขปริศนาเรื่องแดนนรกภูมิ
ที่คนสงสัยกันมานาน

      มีคนสงสัยกันมาก เรื่องแดนนรกภูมิ ที่มีคนตายไปแล้วฟื้นหลายคน เมื่อกลับมาเล่าเรื่องสิ่งที่พบเห็นในสำนักของท่านพระยายมราช ทำไมถึงเห็นไม่เหมือนกัน เลยทำให้คนบางคนฟังแล้วก็ไม่เชื่อถือ เพราะคิดว่าถ้าเห็นจริง ต้องเห็นเหมือนกัน

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน ปกิณกะธรรม | ติดป้ายกำกับ , | 1 ความเห็น

สมเด็จพระพุทธกัสสป ทรงให้หลวงพ่อฤาษีเตือนลูกหลาน

สมเด็จพระพุทธกัสสป ทรงให้หลวงพ่อฤาษีเตือนลูกหลาน

สมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ ของภัทรกัป ทรงมีพระเมตตาให้หลวงพ่อฤาษีฯ เตือนลูกหลานและบริษัทของหลวงพ่อ ซึ่งมีความสำคัญ และเป็นประโยชน์มาก

สมเด็จพระพุทธกัสสป ทรงตรัสกับหลวงพ่อว่า

“เมื่อวานนี้ คุณบันทึกเสียง บอกถึงความดีของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและลูกหลานทั้งหลายที่เขาทำกันว่า แต่ละคนมีวิมาน นี่คุณยังพูดไม่ครบถ้วนนะ

คุณต้องบอกเขาซิ บอกเขาว่า ทุกคนที่เป็นบริษัทของคุณน่ะ เขามีวิมานชั้นแก้ว ๗ ประการด้วยกันทุกคนแล้วเป็นอย่างต่ำ ถึงแม้ว่าใครเขาจะทำบุญมากก็ตาม ใครเขาจะทำบุญน้อยก็ตาม แต่ว่าที่ทำ ทำไปด้วยศรัทธาแท้ ไม่ใช่จำใจทำนะ

คำว่า บริษัทของคุณ น่ะ หมายความว่า ที่เขามีความเลื่อมใสในคุณจริง ๆ มีความเลื่อมใสในการที่คุณนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนมาบอกเขา แล้วก็แนะนำเขาให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แล้วเขามีความเลื่อมใสจริงๆ อย่างนี้เรียกกันว่า บริษัท

บริษัทแท้ ๆ ที่มีความมั่นใจในตัวคุณจริง ๆ เขามีวิมานแก้ว ๗ ประการกันหมดแล้ว เป็นวิมานอันดับ ๒ สำหรับวิมานอันดับ ๑ นั้น มันเป็นวิมานแก้ว ๙ ประการ

ทีนี้ก็มาว่ากันถึงความผ่องใสของวิมาน ความผ่องใสของวิมานย่อมแตกต่างกัน ด้วยอำนาจบุญบารมี คือ กำลังของใจ แต่ก็ควรจะบอกเขาว่า วิมานแต่ละวิมาน ก็มีความสวยสด ความน่ารื่นรมย์ทั้งนั้น

เขตวิมานแต่ละวิมาน บริเวณน่ะกว้างขวางไพศาล มีที่อยู่เป็นสุขสบาย มีความเลื่อมสวยสะอาดวิจิตรตระการตา นี่ก็เรียกว่า ความงามของแต่ละวิมานน่ะ พรรณากันไม่ถูก”

นี่ความจริงมันเป็นอย่างนั้นนะ ความจริงเป็นอย่างนั้น ฉันไปเห็นมาแล้ว ก็เห็นตามนั้น แต่ฉันไม่ได้บอก สมเด็จพระพุทธกัสสป ท่านให้บอก ท่านตรัสอีกว่า

“เธอกลับลงไปบันทึกเสียงเอาไว้นะ บอกว่าตถาคตบอกว่าอย่างนี้ ให้ลูกหลานของเธอทุกคน หรือบริษัทของเธอทุกคน เขาตั้งใจไว้อย่างฉันพูดนะ

การจะไปสวรรค์ก็ดี ไปพรหมโลกก็ดี ไปนิพพานก็ดี เป็นของง่าย ไม่ใช่ของยาก ไม่ใช่ยากอย่างที่นักปราชญ์ในโลก เขาพูดกันเวลานี้ เวลานี้บรรดานักปราชญ์ทั้งหลายนิยมความยาก สิ่งไหนก็ตามที่มันยากเขาถือว่ามันดี เป็นแบบฉบับที่ถูกต้อง

แต่ฉันเห็นว่านั่นไม่ถูก ถ้าตามคติของฉัน ฉันว่าไม่ถูก เพราะสอนคนหรือพูดให้คนเข้าใจง่ายนั้นดี และวิธีปฏิบัติเพื่อผลที่จะพึงได้ให้ง่ายที่สุดนั่นแหละดี เรียกว่าทำง่ายที่สุดและได้ผลมากที่สุด อันนี้ดีกว่า ดีกว่าหาวิธีการที่สอนให้มันยากที่สุดแล้วได้ผลน้อยที่สุด อย่างนี้ไม่ดี ไม่ใช่ความประสงค์ของฉัน

สัมพเกษี เตือนบริษัทและลูกหลานของเธออย่างนี้นะว่า
ให้ทุกคนรู้ตัวว่า มีวิมานอยู่บนสวรรค์ชั้นกามาวจรแล้ว เมื่อเวลาเขาทำความชั่วมา ก็ช่างเถิด เวลาก่อนจะนอน ให้นึกถึงความดีที่ทำไว้ ขึ้นชื่อว่าความชั่วทั้งหลายปล่อยมันไป คิดนึกถึงแต่ความดี แล้วเอาใจนี่จับไว้ว่า นี่เรามีวิมานแก้ว ๗ ประการไว้บนสวรรค์ชั้นกามาวจรแล้ว เวลาเราจะตาย เราจะไปอยู่วิมานนั้น

ถ้าเวลาป่วยไข้ไม่สบาย ไม่ต้องเอาอะไร นึกถึงคุณพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะนึกถึงพระพุทธก็ได้ พระธรรมก็ได้ พระสงฆ์ก็ได้ สิ่งก่อสร้างก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่งไว้ในใจ แล้วตั้งใจว่า เราจะไปอยู่วิมานของเราที่มีอยู่แล้ว ตั้งใจเพียงเท่านี้นะ ถ้าตายเขาจะถึงสวรรค์ชั้นกามาวจรทันที

พวกที่จะไปพรหมโลก ก็เป็นของไม่ยากนะ สัมพเกษี บอกเขานะว่า
คนที่ต้องการไปพรหมโลกน่ะ คืนหนึ่งให้สร้างความดี ๑๐ นาที ตอนกลางวันมันอาจจะเลว เอาดีกันตอนกลางคืน นั่งนับลมหายใจเข้าออกก็ตาม นั่งก็ได้ นอนก็ได้ ยืนก็ได้ เดินก็ได้ นับลมหายใจเข้าออกก็ได้ หรือจะนึกถึงพระกรรมฐานกองใดกองหนึ่งก็ได้ เพียง ๑๐ นาที ให้รู้ลมหายใจเข้าออกเท่านี้ก็พอ เวลาตายแล้วเป็นพรหมแน่

ที่นี้คนไหนต้องการไปพระนิพพาน ก็เป็นของไม่ยาก สัมพเกษี
ให้เขาคิดเห็นว่า โลกนี้ทั้งโลกไม่มีอะไรที่เราชอบ ไม่มีอะไรที่เรารัก เราไม่รักอะไร เราไม่ชอบอะไรในโลกนี้ แม้ร่างกายของเราเอง เราก็ไม่ชอบ ไม่รัก เพราะมันเต็มไปด้วยความทุกข์ เต็มไปด้วยความทรมาน

แล้วให้ใคร่ครวญหาความจริงในโลก จะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม มันมีสภาพทรงตัวได้ตลอดกาลหรือเปล่า ถ้ามันมีการเปลี่ยนแปลง มีการสลายตัว ก็ถือว่าโลกนี้ทั้งโลกหาความดีไม่ได้

แล้วก็หันมาคิดถึงกายของตัวว่า กายของเราเองนี่มันยังจะตาย ยังจะพัง เรายังจะปรารถนาอะไรภายนอกอีก เราไม่ต้องการ เราจะไปนิพพาน

เขาคิดเท่านั้นเพียงคืนละ ๑๐ นาทีนะ สัมพเกษีนะ ลูกหลานของเธอทุกคนจะพ้นนรกหมด พ้นอบายภูมิ อย่างน้อยก็ไปกามาพจรสวรรค์ อย่างกลางก็ไปพรหมโลก อย่างดีก็ไปพระนิพพาน”

นี่ท่านว่าไว้อย่างนี้นะ ลูกหลานที่รักทุกคน ได้ยินหรือยัง ถ้าได้ยินละก็จำไว้นะ ท่านสั่งสอนแบบนี้ สวัสดี

โพสท์ใน ธรรมโอวาท | ติดป้ายกำกับ , | 10 ความเห็น