ปัญหาเรื่องพระนิพพาน

ปัญหาเรื่องพระนิพพาน โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ผู้ถาม :- “เกิดมาแล้วทำไมจึงต้องตายครับ…?”

หลวงพ่อ :- “เพราะอยากตาย ไอ้คนอยากเกิดก็อยากตายด้วยใช่ไหม…เกิดแล้วมันก็ต้องตาย เพราะธรรมดาเราฝืนมันไม่ได้ ทีนี้ถ้าเราไม่ต้องการตาย เราก็ไม่ต้องเกิด”

ผู้ถาม :- “ที่นิพพานไม่มีการเกิดใช่ไหมครับ จึงไม่มีการตาย…?”

หลวงพ่อ :- “อันนี้เคยมีพระหรือพราหมณ์ถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสว่า นิพพานจะไม่มีการเกิดก็ไม่ใช่ จะเรียกว่าเกิดก็ไม่ได้ ถ้าเรียกว่าเกิดก็ต้องเกิด ถ้าจะว่าไม่เกิด แต่สภาวะมันมีอยู่ ตอนแรกฉันอ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็เลยย่องไปถามท่าน

ฉะนั้น นิพพาน ควรเรียกว่าอะไร ท่านบอกว่าควรจะเรียก ทิพย์พิเศษ ที่ไม่มีการเคลื่อน

เทวดาหรือพรหมยังมีการเคลื่อน ที่เรียกว่า จุติ จุติ แปลว่า เคลื่อน

ไอ้ศัพท์ที่ว่า ตาย นี่ พระพุทธเจ้าท่านไม่เรียก ท่านเรียก กาลัง กัตวา ถึงวาระแล้ว ถึงกาลเวลาแล้ว ท่านไม่เรียกว่าตาย ตาย นี่ มรณะ ตามศัพท์ของบาลีไม่มีคำว่ามรณะ ท่านเรียกว่า กาลัง กัตวา แปลว่า ถึงวาระที่จะต้องไปจากร่างกายนี้ ร่างกายนี้มันพังมันไม่ยอมทำงาน”

ผู้ถาม :- “ขอหลวงพ่อโปรดอธิบายเรื่องนิพพาน ให้ผมเข้าใจด้วยครับ”

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน ปัญหาเรื่องพระนิพพาน

ปัญหาเรื่องเทวดา

ปัญหาเรื่องเทวดา
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ผู้ถาม :- “คนที่ชอบบนกับพระภูมิ ท่านสามารถจะช่วยได้จริงหรือเปล่าคะ…?”

หลวงพ่อ :- “ก็ไปถามท่านซิ ฉันไม่ใช่คนถูกบนนี่…?”

ผู้ถาม :- “บางครั้งคนที่ไปบนก็ได้รับความช่วยเหลือก็มีค่ะ แต่ยังไม่แน่ใจว่าท่านจะช่วยได้อย่างไร…?”

หลวงพ่อ :- “ท่านจะช่วยได้ในสิ่งที่ไม่เกินวิสัย อย่าลืมนะ คนกับเทวดานั้นไม่เหมือนกัน ถ้าสิ่งที่เกินวิสัยเขาก็หมดทางช่วยเหลือเหมือนกัน

เคยถามหลวงปู่ปานว่า เขาบนหลวงพ่อ เขาขอให้หลวงพ่อช่วย หลวงพ่อแย่ไหม…ท่านบอกว่าไม่หรอก บางทีเขาบนเกินวิสัยท่าน ท่านก็ให้คณะของท่านมาสงเคราะห์ พระโพธิสัตว์ทั้งนั้น ท่านต้องการช่วยคนอยู่แล้ว ท่านมีหน้าที่ช่วยคน ท่านทำเพื่อพระโพธิญาณ ถ้าท่านช่วยไม่ไหว องค์อื่นทำงานแทนทันที

คณะของพระโพธิสัตว์นี่บารมีเข้มข้นมาก พระภูมิเจ้าที่หรือเทวดา พวกท่านก็มีเยอะเหมือนกัน ความสามารถไม่เท่ากัน ความสามารถเขาดูกันที่มือ องค์ที่มีอานุภาพมาก มือขวาแดงช้าด แดงมากมีฤทธิ์มาก แดงน้อยมีฤทธิ์น้อย ที่ไม่แดงเลยไม่มีฤทธิ์เลย”

ผู้ถาม :- (หัวเราะ) “เราจำเป็นต้องตั้งศาลพระภูมิไหมคะ…?”

หลวงพ่อ :- “ก็สุดแท้แต่เรา เพราะว่าที่ต้องมีการยกศาล ก็เป็นการยอมรับนับถือกัน เรื่องนี้บางคนเขาชอบสงสัย วันหนึ่งว่างๆ ถามท่านว่า ทำไมจึงต้องตั้งศาล ท่านก็เลยบอกว่า ฉันจะเล่าประวัติให้ฟัง

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน ปัญหาเรื่องเทวดา

ปัญหาเรื่องนรก-สวรรค์

ปัญหาเรื่องนรก-สวรรค์
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ผู้ถาม :- “พระพุทธเจ้าบอกว่า ห้ามการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่การเป็นทหาร จำเป็นจะต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อย่างนี้จะบาปไหมครับ…?”

หลวงพ่อ :- “คนไม่ใช่สัตว์นี่คุณ คนถ้าถือว่าเป็นสัตว์ คนนั้นจัญไรที่สุด”

ผู้ถาม :- (หัวเราะ) “เป็นสัตว์ประเสริฐครับ”

หลวงพ่อ :- “คุณบอกมาซิ…คนเป็นสัตว์ประเสริฐตรงไหน…?”

ผู้ถาม :- “มีความคิดดีกว่าสัตว์ครับ”

หลวงพ่อ :- “แต่ก็มีความโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ ใช่ไหม…คุณเคยเห็นปลาฆ่าคนตายกี่คน…?”

ผู้ถาม :- (หัวเราะ)

หลวงพ่อ :- “นี่…ตามศัพท์เขาบอกว่า คนเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่อาตมาถือว่า คนเป็นสัตว์ระยำที่สุด”

ผู้ถาม :- (หัวเราะ)

หลวงพ่อ :- “คุณเป็นคน…หรือไม่ใช่คน…?”

ผู้ถาม :- (หัวเราะ)

หลวงพ่อ :- “ถ้าเป็นคน เขาแปลว่ายุ่ง ที่ว่าไม่ใช่คน ก็คือมนุษย์ มนุษย์นี่แปลว่าใจสูง ฉะนั้น พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต พวกนั้นเขาเรียกว่าคน เขาแปลว่ายุ่ง แต่มนุษย์ต่างหาก เขาแปลว่า สัตว์ประเสริฐ

แต่ที่คุณถามนี่ดีนะ ที่คุณถามว่า พระพุทธเจ้าบอกว่า การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นของไม่ดี แล้วก็ทหารเกิดมาต้องฆ่าข้าศึก ทีนี้คุณก็ต้องดูนะว่าทหารที่ไปฆ่าข้าศึก ฆ่าเพราะความโกรธแค้นเป็นส่วนตัวหรือ ไหนตอบมาซิ”

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน ปัญหาเรื่องนรก-สวรรค์

การชำระหนี้สงฆ์-การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์

การชำระหนี้สงฆ์ และการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ผู้ถาม:- “ทำกรรมอะไรถึงลง อเวจี คะ…?”

หลวงพ่อ:- “อเวจีนี่ทำกรรมหนักมากมันจึงจะลง ก็มี อนันตริยกรรม อาจิณกรรม ขโมยของสงฆ์ ของสงฆ์นี่แตะนิดเดียว ลงอเวจีเลยนะ แม้แต่เศษเล็กๆ”

เรื่อง อนันตริยกรรม เช่น ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ยุให้สงฆ์แตกกัน เป็นต้น พระยายมมาบอกหลวงพ่อว่า “ทุกคนอย่าได้ทำเด็ดขาด ท่านช่วยไม่ได้เลย”

ส่วน อาจิณกรรม เช่น แม่ครัวทุบหัวปลาแกงเป็นประจำ เป็นต้น

สำหรับ ขโมยของสงฆ์ หลวงพ่อได้ยกตัวอย่างให้ฟังดังนี้

“มีญาติพระเจ้าพิมพิสาร เป็นทายก ในตอนต้นก็ดี ซื่อตรงต่อการบุญการกุศล แต่มาตอนกลางๆ มือถึงท้ายมือไม่ค่อยดี เริ่มหยิบแล้ว ทีแรกก็เป็นทายก ต่อมาก็เลยเป็นทายัก ของอะไรดีๆ ก็ยักเอาไปเสียบ้าง เอาไว้ให้ลูกให้เมีย เอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตนเสียบ้าง ของที่เขาจะถวายสงฆ์ เขาตั้งใจจะทำอาหารถวายสงฆ์ เนื้อดีๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง แกงดีๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง บางทีไม่ยักของสด ไอ้ของที่สำเร็จรูปที่เขาไม่ทันจะถวายพระ ก็ยักเอาไว้เสียบ้าง

ญาติของพระเจ้าพิมพิสารเป็นทายักแบบนี้ ตายแล้วลงนรก สิ้นระยะเวลา ๑ กัป พ้นจากนั้นแล้ว ก็มาตกยมโลกียนรก คือผ่านนรกบริวาร ๔ ขุม แล้วก็มาตกยมโลกีนรกตามลำดับ มาเป็นเปรต ๑๑ จำพวก สุดท้ายก็เป็นเปรตพวกที่ ๑๒ สมัยพระพุทธเจ้าของเรานี่

และอีกเรื่องหนึ่ง กากะเปรต สมัยที่เกิดเป็นกา แย่งข้าวในขันที่เขานำไปจะถวายพระ ข้าวสุกนั้นเขานำไปยังไม่ถึงพระ ยังไม่ใช่ของสงฆ์ จะถือว่าเป็นของชาวบ้านก็ไม่ได้ เพราะเขาตั้งใจถวายสงฆ์แล้ว กรรมเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ตายไปแล้วไปลงอเวจี แล้วแถมมาเกิดเป็นเปรต”

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน การชำระหนี้สงฆ์-การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์

หลวงพ่อเล่าเรื่องพระพุทธชินราช

หลวงพ่อเล่าเรื่องพระพุทธชินราช
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ตามที่หลวงพ่อท่านได้สร้าง พระพุทธชินราช ประดิษฐานเป็นพระประธานไว้ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร เพื่อไว้สักการะบูชาของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย พระพุทธรูปองค์นี้สร้างได้สวยสดงดงามมาก นอกจากญาติโยมทั้งหลายจะได้อานิสงส์ในการร่วมสร้างกันแล้ว หลวงพ่อท่านได้บอกว่า พระพุทธชินราชองค์นี้ ถ้าเกิดฝนแล้งจะอธิษฐานขอฝนก็ได้

ในโอกาสนี้จึงขอนำเรื่องราวของพระพุทธชินราช ที่หลวงพ่อเคยประสบเหตุการณ์มาแล้ว มาเล่าสู่กันฟัง

เนื่องจากมีผู้หญิงคนหนึ่งนำพระพุทธชินราช มาให้หลวงพ่อปลุกเสก เมื่อหลวงพ่อปลุกเสกแล้ว บอกว่า “เอาพระพุทธชินราชมาให้เสก ไม่รู้ฉันจะเสกบทไหน…กลัวท่านจะเสกหัวฉันเข้าน่ะซิ”

พอยกมือขึ้นอาราธนาบารมีท่าน…ท่านบอก “มันก็ยี่ห้อเดียวกับแก แกก็ติดชินราช”

ถูกของท่าน ที่ว่าถูกของท่าน คือว่า พระพุทธรูปที่นำมาถวาย ถ้าหากว่ามันไม่เกินวิสัยจริงๆ ฉันต้องทำเรือนแก้วให้ได้ เพราะว่าฉันชอบชินราช เพราะอะไร…ชินราช เขาแปลว่า ชนะ

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน หลวงพ่อเล่าเรื่องพระพุทธชินราช

เรื่องราวของพระปัจเจกพุทธเจ้า

เรื่องราวของพระปัจเจกพุทธเจ้า
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ผู้ถาม :- “หลวงพ่อครับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านต้องบำเพ็ญบารมีนานไหมครับ จึงจะตรัสรู้ได้…?”

หลวงพ่อ :- “พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ ๒ อสงไขยกับแสนกัป”

ผู้ถาม :- “ท่านตรัสรู้เองใช่ไหมครับ…?”

หลวงพ่อ :- “ใช่ ลงคำว่า พุทธเจ้า ต้องตรัสรู้เอง คือไม่ต้องรับคำสอนจากคนอื่น”

ผู้ถาม :- “มีเฉพาะตอนที่มีพระพุทธเจ้าใช่ไหมครับ…?”

หลวงพ่อ :- “เจ๊ง…พระปัจเจกพุทธเจ้าจะมีขึ้น ก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า ไม่ใช่มีพระพุทธเจ้า อย่างศาสนานี้สิ้นไป ในช่วงว่างก่อนจะถึงพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

สมัยพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเวลานั้นก็ไม่มีสาวก ก็มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้งหมด เพราะพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้บรรลุเพียงองค์เดียวอย่างพระพุทธเจ้า ก็มีได้เป็นหมื่นเป็นแสน แต่ว่าพระพุทธเจ้าจะต้องมีองค์เดียว มีซ้อนไม่ได้”

ผู้ถาม :- “แล้วทำไมพระปัจเจกพุทธเจ้าเมื่อท่านตรัสรู้แล้ว จึงไม่สอนเหมือนกับพระพุทธเจ้าครับ…?”

หลวงพ่อ :- “เกิดทันรึ…รู้เหรอว่าท่านไม่สอน เคยพบหรือเปล่า…?”

ผู้ถาม :- ?…?…?

หลวงพ่อ :- “ท่านสอน จะว่าไม่สอนเลยนั้นไม่ใช่ แต่ว่าไม่สอนถึงอริยสัจ ถ้าไปศึกษากับท่าน ท่านก็สอนแค่อภิญญาโลกีย์ ส่วนที่ตัดเข้าถึงมรรคผลนั้นเป็นเรื่องของบุคคลนั้นเอง ปัจเจก เขาแปลว่า รู้เฉพาะตน ความจริง คำว่า เฉพาะ ก็มีเฉพาะส่วนที่เป็นอริยสัจเท่านั้นเองนะ”

อ่านเพิ่มเติม

โพสท์ใน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน เรื่องราวของพระปัจเจกพุทธเจ้า