โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
สำหรับตอนนี้ อาตมาขอถวายพระพรพระมหาบพิตร ในเรื่อง วิตกจริต กับ โมหะจริต สำหรับวิตกจริตและโมหะจริตทั้ง ๒ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงแนะนำให้ใช้กรรมฐานข้อเดียวกัน เป็นเครื่องระงับความฟุ้งซ่าน และความไม่แน่นอนของจิต
สำหรับพระกรรมฐานที่องค์สมเด็จพระพิชิตมาร ทรงประทานให้เป็นเครื่องระงับหรือคู่ปรับกับกรรมฐานคู่นี้ หรืออารมณ์แห่งวิตกจริตและโมหะจริต ก็ได้แก่ อานาปานุสสติกรรมฐาน
ตอนนี้อาตมาจะขอถวายพระพรในลักษณะของวิตกจริตและโมหะจริตก่อน
สำหรับ วิตก แปลว่า ตรึก นึก คิด ไม่ตกลงใจ มีอารมณ์ที่มีความไม่แน่นอนใจ สำหรับโมหะจริตก็มีความหลงเป็นปกติ คนที่มีวิตกจริตกับโมหะจริตทั้ง ๒ ประการนี้ มีอาการคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าเป็นคนที่ตัดสินใจไม่ตกลง มีอารมณ์คิดอยู่เสมอ หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ และไม่แน่นอนว่าจะควรตัดสินใจเป็นประการใด ถ้ามีใครมาบอกเหตุสำคัญหรือไม่สำคัญ ผลประโยชน์ที่จะพึงได้หรือไม่ได้ ความไม่แน่ใจก็เกิดขึ้นแก่บุคคลประเภทนี้
ลักษณะที่จะเห็นง่ายๆ คนที่มีวิตกจริตเป็นคนที่มีอารมณ์ซึม ไม่ค่อยมีการกระปรี้กระเปร่า ไม่กล้าตัดสินใจที่มีความสำคัญใดๆ ถ้ามีเรื่องอื่นที่จะพึงเกิดขึ้น เป็นเรื่องราวที่ต้องรับผิดชอบเกิดขึ้น มักจะชอบโยนกลองให้แก่บุคคลอื่นเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งนี้เพราะหากำลังใจที่ตัดสินใจแน่นอนไม่ได้
สำหรับท่านที่มีโมหะจริต โมหะแปลว่าความหลง ท่านประเภทนี้ก็มีอารมณ์คิดมากเหมือนกัน คิดอยู่เสมอว่า นั่นเป็นเรา นี่เป็นของเรา โน่นเป็นของเรา ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ของเล็กของน้อย ก็มีความหวงแหนเป็นปกติ มีความหลงในทรัพย์สิน ความหลงในชีวิต คิดอยู่เสมอว่าตัวจะไม่ตาย และมีความคิดอยู่เสมอว่า ทรัพย์สินทั้งหลายของเราที่หามาได้ด้วยความเหนื่อยยาก เราจะไม่ยอมแบ่งปันให้ใคร จะกอบโกยไว้บำรุงความสุขฝ่ายตนแต่ผู้เดียว